ตลอดประวัติศาสตร์มีเรื่องราวการค้นพบทางโบราณคดีที่น่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งได้ช่วยไขปริศนาในอดีตให้กระจ่างและยังเป็นสิ่งชี้แนะเส้นทางสู่อนาคตให้แก่มนุษยชาติไว้ แต่บางทีการค้นพบสิ่งที่ล้ำค่าบางอย่างนั้น เราก็อาจจะได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำและในวันนี้ CUPO ได้คัดสรรมาให้ชมกันใน4สมบัติอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญจะมีอะไรบ้างตามมากันเลย
1.ถ้ำลาสโคซ์ (Lascaux Cave)
ในเดือนกันยายน ปีหนึ่งพันเก้าร้อนสี่สิบได้มีวัยรุ่นชาวฝรั่งเศสสี่คนกําลังเดินเล่นกันอยู่ในป่าใกล้เมือง Mutinia ต่อมาสุนัขของพวกเขาก็เริ่มดมกลิ่นไปเจอกับหลุมลึกลับบนพื้นดินจนมันได้ทลายลง พวกเขาจึงได้ทําการปีนลงไปตามร่องกล่องหินนั้น จนได้พบกับถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ยังประดับด้วยภาพเขียนและงานแกะสลักโบราณประมาณสองพันภาพด้วยกัน ด้วยความประหลาดใจกลุ่มวัยรุ่นที่ได้พบถ้ำนี้จึงได้เริ่มสํารวจถ้ำแห่งนี้อย่างลับๆโดยไม่บอกใคร
แต่ในเวลาต่อมาพวกเขาก็ตัดสินใจไปบอกกับครูที่โรงเรียนของพวกเขา ซึ่งทําให้มีการแจ้งไปยังผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทําการลงไปสํารวจถ้ำอย่างถูกต้องตามขั้นตอนและไม่นานหลังจากนั้น เรื่องราวเกี่ยวกับภาพวาดหลายภาพที่ประกอบไปด้วยภาพของมนุษย์ยุคโบราณ สัตว์ป่าและสัญลักษณ์นามธรรมที่วิจิตรงดงามเหล่านี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรป
โดยมีชื่อเรียกว่าถ้ำลาสโคซ์และกลายเป็นที่รู้จักในชื่อเรียกวิหาซิสทีนแห่งศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์หรือซิสเทียนอาร์ต นักประวัติศาสตร์ได้กําหนดอายุของภาพเขียนเหล่านี้ที่ประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันถึงหนึ่งหมื่นเจ็ดพันปีและหลายคนเชื่อว่า ถ้ำแห่งนี้นั้นเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและการล่าสัตว์ของมนุษย์ในช่วงปลายยุคหินเก่าของยุโรป
2.กองทัพดินเผา (Terracotta Army)
ในปีหนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบสี่ กลุ่มเกษตรกรชาวจีนกลุ่มหนึ่งก็ได้พบกับเรื่องราวครั้งสําคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขา นั่นก็คือการค้นพบหลุมฝังศพของจักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์ฉิน การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่กลุ่มชายเจ็ดคนกําลังขุดบ่อน้ำอยู่ใกล้เมืองซีอานและพวกของชายคนหนึ่งก็ได้ไปกระแทกเข้าที่หัวของรูปปั้นที่ถูกฝังไว้ใต้ดินในตอนแรกนั้นพวกเขาคิดว่าพวกเขาได้ค้นพบรูปปั้นครึ่งตัวที่ทําจากทองแดง
หรือรูปปั้นพระพุทธรูปโบราณ แต่เมื่อเรื่องนี้ไปถึงนักโบราณคดีก็ได้มีการขุดค้นเพิ่มเติม จึงทําให้พบว่า มันเป็นหนึ่งในรูปปั้นทหารและรถม้าดินเผาขนาดเท่าของจริงที่มีอยู่ประมาณแปดพันชิ้นที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ปกป้ององค์จักรพรรดิ ฉินซีฮ่องเต้ในชีวิตหลังความตายในช่วงศตวรรษที่สามก่อนคริสตกาล
ความน่าทึ่งก็คือทั้งรูปปั้นทหารโบราณทั้งหมดนั้น มีรายละเอียดที่เป็นงานฝีมือขั้นสูงรูปปั้นอาหารแต่ละชิ้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและใบหน้าที่ไม่เหมือนกันด้วย ในปัจจุบันนั้นถือได้ว่านี่เป็นสมบัติทางโบราณคดีที่สําคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน
3.วีนัส เดอ มิโล (Venus de Milo)
ก่อนที่วีนัส เดอ มิโลจะกลายเป็นหนึ่งในประติมากรรมที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุดชิ้นหนึ่งในโลกรูปปั้นชิ้นนี้ได้ถูกฝังอยู่บนเกาะเมลอสของประเทศกรีซเป็นเวลาหลายศตวรรษ รูปปั้นที่ไร้แขนชิ้นนี้ถูกค้นพบในปีหนึ่งพันแปดร้อยยี่สิบ
เมื่อชาวนาคนหนึ่งได้ค้นพบครึ่งบนของรูปปั้นโดยบังเอิญในตอนที่เขากําลังเก็บก้อนหินอ่อนออกจากกองซากปรักหักพังโบราณการค้นพบครั้งนี้ได้ดึงดูดความสนใจของ olivier voutier ผู้เป็นนายทหารเรือชาวฝรั่งเศสที่บังเอิญมาขุดหาโบราณวัตถุอยู่ในบริเวณใกล้เคียงทางด้าน olivier voutier จึงทําการจ่ายค่าจ้างให้กับชาวนาคนนั้นเป็นการติดสินบน
เพื่อให้เขาหาครึ่งล่างของรูปปั้น วีนัส นี้ให้เจอและต่อมาเขาก็ได้เกลี้ยกล่อมให้เอกอัครราชทูตของฝรั่งเศสประจําจักรวรรดิออดโตมันให้ซื้อรูปปั้นนี้จากเขาและในปีหนึ่งพันแปดร้อยยี่สิบเอ็ดรูปปั้นนี้ก็ถูกนําไปถวายแด่พระเจ้าหลุยส์ที่สิบแปดและบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ Louvre ในเวลาต่อมา นักประวัติศาสตร์ศิลป์สันนิษฐานว่าวีนัสถูกปั้นขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการเป็นตัวแทนของเทพธิดากรีกอัลโฟไดซ์แต่จนถึงทุกวันนี้พวกเขาก็ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับแขนของวีนัสที่หายไป
สนับสนุนการจัดทำโดย ufa369