Friday, 22 March 2024

เรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลก

22 Mar 2023
182
เรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลก เรื่องราวของประวัติศาสตร์คือสิ่งที่เกิดจากการกระทำหรือแนวคิดของมนุษย์ คือโอกาสของอดีตที่เชื่อมโยงกับปัจจุบัน เพื่อประโยชน์ของอนาคต ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยหลักฐานที่น่าเชื่อถือ เรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์นั้นมีมากมายและก็มีบางบทที่ทำให้เราฉงนและเกิดคำถามว่ามีเรื่องแบบนี้ในหน้าประวัติศาสตร์โลกด้วยเหรอ! วันนี้ cupo จะพาท่านมาร่วมรู้เรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นจริงๆกัน

วันที่หายไปจากโลก

เรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลก ในสมัยสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ที่สิบสาม ได้มีการเปลี่ยนดัดแปลงปฏิทินจูเลียนเป็นปฏิทินกริกอเรียน เพื่อให้ปฏิทินมีความสอดคล้องกับฤดูกาลตามความเป็นจริงจึงต้องทําการปฏิรูปปฏิทินใหม่ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่สิบสามได้ประกาศให้วันที่สี่ตุลาคมหนึ่งพันห้าร้อยแปดสิบสอง เป็นวันสุดท้ายของปฏิทินจูเลียนและให้นับวันถัดมาคือวันที่ห้าเปลี่ยนเป็นวันที่สิบห้าตุลาคมแทน ซึ่งก็ทําให้ประเทศในแถบยุโรปที่เป็นคาทอลิกวันได้ถูกเลื่อนขึ้นและหายไปทันทีสิบวัน ส่วนในประเทศอังกฤษนั้นเริ่มต้นใช้ปฏิทินกริกอเรียนในปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบสอง โดยประกาศให้วันที่สามกันยายนเป็นวันที่สิบสี่กันยายน ซึ่งการปรับเปลี่ยนรูปแบบของปฏิทินครั้งแรกของโลกนั้นทําให้อยู่ๆวันของโลกนั้นก็หายไปแบบที่เรียกว่านอนอยู่วันหนึ่งแต่ตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็กลายเป็นอีกสิบวันถัดไป

มีเรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลกที่ไม่ได้ถูกเล่าในหน้าประวัติศาสตร์โลก 1 ไหม?

Did you know that there are strange events in global history that have not been told in the pages of our world history? These untold stories are filled with mystery and intrigue, awaiting discovery. From unexplained disappearances to unrecorded phenomenon, the hidden tales of our past hold a fascination that cannot be ignored. Uncover the secrets of these strange events in global history and embark on a journey unlike any other.

รองเท้าส้นสูง แท้จริงแล้วทำมาให้ผู้ชายใส่

เรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลก ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่สิบหกรองเท้าส้นสูงถูกผลิตและออกแบบโดยทหารม้าชาวเปอร์เซีย เพื่อให้ผู้ชายไว้ใส่ในสนามรบ เพื่อเป็นการออกแบบเพื่อให้รองรับกับโกร่นซึ่งเป็นห่วงที่ห้อยลงมาจากอานมาทั้งสองด้านไว้สําหรับสอดเท้าเวลาขึ้นลงทำให้ผู้ขี่ไม่ลื่นหล่นลงมาขณะต่อสู้ในสนามรบ ขณะที่ต้องทรงตัวยืนขึ้นเพื่อยิงธนูในขณะที่ม้ากําลังวิ่ง ต่อมาเมื่อรองเท้าส้นสูงได้ถูกนําไปเผยแพร่ในแถบยุโรปโดยนายทหารม้านักเดินทางชาวเปอร์เซียก็ทําให้ชาวยุโรปเริ่มหันมาสวมใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อแสดงฐานะของตัวเอง เรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลก จนทําให้รองเท้าส้นสูงนั้นได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับชนชั้นสูงไปโดยปริยาย ถัดมาอีกร้อยกว่าปีในยุคสมัยของผู้ชายที่สวมใส่ส้นสูงที่โด่งดังที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์อย่างพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ ผู้ซึ่งชื่นชอบการสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีแดงและยังเป็นผู้ออกกฎความสูงของส้นรองเท้าให้สอดคล้องกับตามชนชั้นในสังคม โดยมีการเพิ่มความสูงของส้นชนชั้นละครึ่งนิ้ว สำหรับประชาชนคนธรรมดาสามารถสวมใส่ส้นสูงได้เพียงแค่ครึ่งนิ้วไล่ความสูงไปจนถึงสมาชิกราชวงศ์ ซึ่งสามารถสวมใส่ได้สูงถึงสองนิ้วครึ่ง เรื่องราวแปลกๆในหน้าประวัติศาสตร์โลก ทั้งนี้หลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสในปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยแปดสิบเก้ารองเท้าส้นสูงได้เริ่มไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย เพราะเริ่มมีรองเท้าที่สวมใส่สบายกว่าและต่อมาในยุควิคตอเรียเริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ๆจักรเย็บผ้าสามารถเย็บรองเท้าส้นสูงได้อย่างเรียบร้อย สวยงามและก็ยังมีภาพถ่ายของผู้หญิงกับรองเท้าส้นสูงเสมือนเป็นตัวแทนความเซ็กซี่ มีดาราผู้หญิงเริ่มหันมาใส่รองเท้าส้นสูงกันมากขึ้น จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ส้นสูงนั้นไม่ถือว่าเป็นของผู้ชายอีกต่อไป กระแสความนิยมรองเท้าส้นสูงเริ่มกระจายไปสู่กลุ่มของผู้หญิงแทน สนับสนุนการจักทำโดย ufa108