Thursday, 18 April 2024

ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย

30 Jan 2023
169
ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย “ศิลปะ” นอกจากเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของศิลปินในรูปแบบหนึ่งแล้ว งานศิลปะบางชิ้น ก็มีการถ่ายทอดในแง่มุมของช่วงเวลาในระหว่างที่มันถูกสร้างขึ้นด้วย ดังนั้น นอกจากความสวยงามแล้ว ศิลปะบางชิ้นยังมีคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์ ที่ไม่อาจประเมินค่าได้ วันนี้ cupo จะมาบอกเล่าเรื่องราวของ “การค้นพบภาพโมเสคอายุ 1,600 ปี ในซีเรีย” รายละเอียดจะเป็นอย่างไร

ทำความรู้จักกับงานศิลปะในรูปแบบ “โมเสค”

ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย งานศิลปะโมเสคเป็นประเภทของงานศิลปะที่เป็นการตกแต่งภายในอาคารต่างๆด้วยชิ้นแก้ว หิน หรือเศษกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ซึ่งเป็นงานศิลปะประเภทที่ได้รับความนิยมมากในสมัยโบราณและเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งอาคารประเภทต่างๆและการแสดงออกทางศิลปะในหลายพื้นที่หรือหลายประเทศทั่วโลก โดยงานศิลปะแบบโมเสคนั้นเฟื่องฟูเป็นอย่างมากในยุคจักรวรรดิโรมัน ซึ่งในยุคนั้นงานศิลปะแบบโมเสคนั้นมีหลักๆทั้งสิ้นสองรูปแบบด้วยกัน นั่นก็คืองานศิลปะแบบโมเสคตะวันออกและงานศิลปะแบบโมเสคตะวันตก โดยรูปแบบของงานศิลปะแบบโมเสคตะวันตกนั้นจะเป็นการนำชิ้นแก้ว หินหรือกระเบื้องให้เป็นรูปทรงเรขาคณิต นอกจากนี้งานศิลปะแบบโมเสสตะวันตก ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย ส่วนมากจะเป็นผลงานศิลปะแบบสีขาวดําหรือมีเพียงแค่สีเดียวเท่านั้น ในขณะที่งานศิลปะแบบโมเสคตะวันออกนั้นจะมีสีสันและมีรายละเอียดมากกว่าและมักจะถูกจัดวางเอาไว้โดยตั้งใจให้กลมกลืนไปกับของตกแต่งรอบรอบในสถานที่นั้นๆอย่างเช่น การจัดวางพื้นตรงส่วนกลางของบ้าน ด้วยงานศิลปะแบบโมเสคตะวันออก เพื่อให้ดูเหมือนพรมผืนใหญ่ที่เข้ากับการตกแต่งของบ้านนั่นเอง เนื่องจากงานศิลปะแบบโมเสคนั้นคือการฝังวัสดุลงไปในพื้นเพดานหรือว่าผนังอาคารทําให้งานศิลปะแบบโมเสคหลายๆชิ้นที่มีความเก่าแก่หรือมีอายุหลายร้อยปียังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ทําให้คนรุ่นหลังนั้นมีโอกาสได้เสพงานศิลปะที่มีความสวยงาม สะท้อนให้เราได้เห็นถึงเรื่องราวและประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้นๆที่ผลงานศิลปะโมเสคชิ้นนั้นถูกสร้างขึ้นนั่นเอง

การค้นพบศิลปะกระเบื้องโมเสคขนาดใหญ่อายุ 1,600 ปีในซีเรีย

ในตลอดช่วงเวลาสิบเอ็ดปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่สงครามกลางเมืองซีเรียได้เริ่มต้นขึ้นในปีสองพันสิบเอ็ดสงครามก็ได้ทําให้ศิลปะวัตถุหลายชิ้นถูกทําลายสูญหายหรือถูกขโมยไปขายเป็นจํานวนมาก การค้นพบงานกระเบื้องโมเสคในซีเรียครั้งนี้จึงเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ในรอบเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยกระเบื้องโมเสคนี้เป็นงานศิลปะที่มาจากยุคโรมันมีขนาดประมาณยี่สิบคูณหกเมตรประกอบด้วยชิ้นกระเบื้อง หินและแก้วขนาดหนึ่งจุดสองคูณหนึ่งจุดสองเซนติเมตรเป็นจํานวนมากและจากการคํานวณแบบคร่าวๆของทีมนักโบราณคดีคาดว่ากระเบื้องโมเสสขนาดใหญ่นี้น่าจะถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสตศักราชที่สี่หรือเมื่อประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีที่แล้ว โดยเป็นช่วงเวลาหลังจากที่จักรกวัดโรมันตะวันตก ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย แยกตัวออกมาจากจังหวัดไบเซ็นต์ไทม์หรือจักรวรรดิโรมันตะวันออกและเนื่องจากสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรียตลอดสิบเอ็ดปีที่ผ่านมาให้หลายอาคารในประเทศซีเรียนั้นถูกทําลายลง ทําให้ปัจจุบันนักประวัติศาสตร์คดีก็ยังคงพยายามขุดค้นเพิ่มเติม เพื่อระบุประเภทของอาคารที่ค้นพบกระเบื้องโมเสคชิ้นนี้อยู่และเนื่องจากผลงานของกระเบื้องโมเสคชิ้นนี้มาจากยุคโรมันภาพที่ถูกบอกเล่าเรื่องราวที่อยู่บนกระเบื้องโมเสกชิ้นนี้นั้นเป็นเรื่องราวของเทพปกรณัมกรีกโรมันอันโด่งดังนั่นก็คือเรื่องราวของสงครามโทรจันหรือสงครามกรุงทรอยในภารกิจที่เก้าจากทั้งสิบสองภารกิจและและเทพเนปจูน และนางสนมกว่าสี่สิบคนของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลนั่นเอง

ชมภาพโมเสคในซีเรียเป็นเรื่องที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์โลกหรือไม่?

Are unusual events in world history fascinating? The intriguing nature of mosaic art in Syria could certainly make a strong case. From its ancient origins to the intricate designs, mosaic artwork in Syria has captivated historians and art enthusiasts alike. These masterpieces depict various aspects of life, religion, and culture, revealing the rich tapestry of Syrian society throughout the ages. Exploring these captivating mosaics is like stepping into a time machine, uncovering the beauty and significance of unusual events in world history.

สงครามกรุงทรอย สงครามที่เริ่มต้นจากความงามของหญิงสาว

ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย ภาพแรกที่ปรากฏอยู่บนกระเบื้องโมเสกที่ถูกค้นพบในซีเรียนั้น เป็นภาพของสงครามกรุงทรอยหรือสงครามโทรจันเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สําคัญที่สุดในเทพปกรณัมกรีกกรีกและหนึ่งเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดในโลกที่หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง โดยสงครามกรุงทรอยนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการทะเลาะกันระหว่าง เทพีอาเธน่าเทพีแห่งสติปัญญา เทพีเทร่าราชินีแห่งสรวงสวรรค์และเทพีอโฟรไดท์เทพีแห่งความงามว่าระหว่างเทพีทั้งสามองค์นั้นใครคือผู้ที่งามที่สุดที่คู่ควรกับแอปเปิ้ลสีทอง หลังจากที่ถกเถียงกันอยู่นานเทพซุสราชาแห่งปวงเทพก็ตัดสินใจส่งตัวเทพีทั้งสามนั้นไปหาปารีสเจ้าชายแห่งกรุงทรอยเพื่อให้ปารีสนั้นเป็นคนตัดสินและปารีสก็เลือกให้เทพีอโฟรไดท์เป็นผู้ที่งามที่สุดได้รับผลแอปเปิ้ลสีทองไปเพื่อเป็นการตอบแทนแก่ผลการตัดสินเทพีอโฟรไดท์จึงเสกให้เฮเลนชายาของพระเจ้าและหญิงที่ได้ชื่อว่างามที่สุดในโลกตกหลุมรักปารีส ค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย ปารีสจึงได้พาเฮเลนไปอยู่ด้วยกันที่กรุงทรอยทําให้พระเจ้าเมเนริอัสไม่พอใจเป็นอย่างมากและตัดสินใจนํากองทัพชาวกรีกไปยังกรุงทรอยและล้อมกรุงทรอยเอาไว้นานถึงสิบปี ทําให้เกิดการสูญเสียขึ้นเป็นจํานวนไม่น้อยแต่สุดท้ายฝ่ายกรุงทรอยของเจ้าชายปารีสก็ต้องเสียท่าให้กับกลอุบาย ม้าไม้เมืองทรอย ของพระเจ้าเมเนริอัสและประชาชนชาวกรุงทรอยก็ถูกสังหารไปเป็นจํานวนมาก ชาวกรีกโบราณหลายคนเชื่อว่าตํานานสงครามกรุงทรอยนั้นเป็นเพียงเรื่องเล่าประหลาดประดาเท่านั้น แต่ในปีหนึ่งพันแปดร้อยหกสิบแปดก็มีนักโบราณคดีชาวเยอรมันที่ชื่อว่า แฟรงค์ ทาวเวอร์ที่ออกมาบอกว่ากรุงทรอยนั้นเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานของเขาเท่านั้นคเพราะจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ไหนที่สามารถบอกได้ว่าเรื่องราวของสงครามกรุงทอยนั้นเป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด สนับสนุนการจัดทำโดย ufa555