ดอกไม้ราคาแพงที่สุดในโลก

ดอกไม้สีสันสดสวยและมีกลิ่นหอม มักจะถูกนำไปใช้ในพิธีหรืองานสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญที่ชายหนุ่มจะแสดงความรักต่อหญิงสาวที่เขาหมายปอง แต่ดอกไม้แต่ละชนิดก็มีราคาที่แตกต่างกันไป ดอกไม้ชนิดใดจะมีราคาแพงที่สุด วันนี้ cupo เราจะพามาหาคำตอบได้ใน..ดอกไม้ราคาแพงที่สุดในโลก

ดอกไลเซียนทัส (Lisianthus)

ดอกไลเซียนทัสมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า eustoma grandiflorum เป็นพืชที่อยู่ในวงเจนทีนิซี่ แต่บางคนก็เรียกว่าดอกลิซี่ ดอกไม้ชนิดนี้มีต้นกําเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ กลีบดอกอ่อนนุ่มและมีหลากหลายสีสัน เช่น สีม่วง สีขาว สีฟ้า ด้วยความที่กลีบดอกไลเซียนทัสฉีกขาดได้ง่าย ในบางครั้งจึงเรียกว่าดอกกระดาษ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม โดยจะเหี่ยวเฉาไปหลังจากตัดออกมาจากต้นประมาณสองสัปดาห์ ดอกไลเซียนทัสมีราคาอยู่ที่สามร้อยถึงหนึ่งพันบาทหรือสิบถึงสามสิบห้าดอลลาร์สหรัฐต่อช่อ

ดอกมูเกร์หรือดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ (Lily of the valley)

ดอกมูเกร์หรือดอกลิลลี่ภูเขาหรือดอกระฆังน้อยแห่งภูเขา ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า convallaria majalis เป็นคําว่า majalis นั้นมีความหมายถึงเดือนพฤษภาคม ดังนั้นแล้วคู่รักหรือเพื่อนที่สนิทกัน ก็นิยมจะมอบดอกมูเกร์ให้แก่กันในเดือนนี้ ดอกมูเกร์มีกลิ่นหอมและมีรูปร่างคล้ายกับระฆังใบน้อยๆ ส่วนใบเรียวยาวคล้ายกับต้นหญ้าเป็นดอกไม้ของประเทศในเขตหนาวพบได้ในประเทศจีน ญี่ปุ่น ยูเรเซีย ทางด้านตะวันออกของอเมริกาและพบได้ทั่วไปในอังกฤษ ชาวอังกฤษนั้นถือว่าดอกไม้ชนิดนี้เป็นสมุนไพร แต่ก็ต้องใช้โดยผู้ที่มีความชํานาญเท่านั้น เนื่องจากมีทั้งคุณและโทษหากใช้ผิดวิธี ดอกมูเกร์มีราคาอยู่ที่ห้าร้อยถึงหนึ่งพันบาทหรือสิบห้าถึงห้าสิบดอลลาร์สหรัฐต่อช่อ

ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea)

ดอกไฮเดรนเยียมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า hydrangea macrophylla ส่วนชื่ออื่นๆก็คือดอกสามเดือน ดอกหกเดือน และดอกสามสี ดอกไม้ชนิดนี้มีต้นกําเนิดอยู่ในแถบเอเชียโดยเฉพาะในประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี รวมถึงทางด้านตะวันตกของอเมริกาและแคนาดา ไฮเดรนเยียออกดอกเป็นช่อและมีหลากหลายสีสัน เช่น ขาว ฟ้า ม่วง ชมพู และแดง นอกจากนั้นสีของดอกก็ยังสามารถเปลี่ยนสีได้ตามความเป็นกรดและด่างของดิน รวมถึงปริมาณฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมอีกด้วย ดอกไฮเดรนเยียนั้นมีราคาอยู่ที่หนึ่งร้อยหกสิบบาทหรือหกจุดห้าเหรียญสหรัฐต่อก้าน

ดอกดึง (Gloriosa Lily)

ดอกดึงหรือดาวดึงหรือหัวขวาน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า gloriosa superba ถิ่นกําเนิดอยู่ในทวีปเอเชียและแอฟริกาใต้ มักพบดอกดาวดึงตามป่าดิบชื้นหรือที่รกร้างที่มีความชื้นสูง ดอกมีลักษณะเป็นดอกเดียว กลีบเรียวยาวของดอกยกตัวขึ้นลงเป็นรูปคลื่นโดยที่ปลายกลีบมีสีแดงส่วนที่โคนจะเป็นสีเหลือง เมื่อบานในช่วงแรก แต่ต่อมาจะเป็นสีส้ม ส่วนสีอื่นที่มักจะพบก็คือสีเขียวและสีส้ม แม้ว่าดอกหนึ่งจะมีคุณสมบัติเป็นสมุนไพร แต่ถึงอย่างนั้นหากผู้ที่นําไปใช้ขาดความรู้แล้วก็อาจจะก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน โดยเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร ด้วยความที่ดอกดาวดึงเป็นดอกไม้ที่พบได้ยากจึงมีราคาแพง โดยดอกเดียวนั้นมีราคาที่หนึ่งร้อยห้าสิบถึงสามร้อยบาทหรือหกถึงสิบดอลลาร์สหรัฐ

What are the Most Expensive Flowers in the World?

From delicate orchids to rare roses, the world’s most expensive flowers possess a captivating allure. The vibrant blue Himalayan Poppy holds a spot on this prestigious list, alongside the mesmerizing Juliet Rose. With its unique scent and stunning appearance, the Shenzhen Nongke Orchid has also gained recognition. These treasures of nature come at extraordinary prices, reflecting their scarcity and exceptional beauty.

ดอกหญ้าฝรั่น (Saffron Crocus)

ดอกหญ้าฝรั่น แม้ว่าชื่อของมันจะทําให้นึกไปว่ามันเป็นดอกหญ้าธรรมดา แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น นอกจากนั้นมันก็ยังไม่ได้เป็นหญ้าอีกด้วย หากแต่ว่าเป็นดอกไม้ราคาแพงชนิดหนึ่งเลยทีเดียว ดอกหญ้าฝรั่นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า crocus sativus ก้านดอกจะแทงออกมาจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ส่วนดอกมีสีม่วงคล้ายดอกบัว กลีบดอกเรียวยาว เกสรสีเหลืองขนาดใหญ่โผล่พ้นจากกลีบดอก เกสรตัวเมียมีสีแดง ดอกหญ้าฝรั่นนั้นจะอยู่ได้สองถึงสามสัปดาห์หลังจากตัดออกมาจากต้น ด้วยประเทศที่สามารถปลูกได้จะส่งออกไปขายนอกประเทศได้มากที่สุดก็คือประเทศอิหร่าน ดอกหญ้าฝรั่นมีราคาสามหมื่นแปดพันถึงสี่หมื่นแปดพันบาทหรือหนึ่งพันสองร้อยถึงหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งกระบะ แต่ถ้าแปรรูปเป็นสมุนไพรแล้วจะมีราคาสูงถึงเกือบสามแสนเจ็ดหมื่นสี่พันบาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว ดังนั้นแล้วนอกจากดอกหญ้าฝรั่นจะเป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงแล้ว มันก็ยังเป็นพืชสมุนไพรที่มีราคาสูงมากอีกด้วย สนับสนุนการจัดทำโดย ufabet123