หลักฐานในอดีต ชี้อาหารรักษาโรค

เรื่องของสุขภาพในฝั่งแพทย์ทางเลือกนั้น มักจะมีคำว่า “ขึ้นชื่อว่า ยา ส่วนใหญ่แล้วเป็นการรักษาอาการที่ปลายเหตุ” คำกล่าวนี้ดูคล้ายว่าจะเป็นเรื่องจริง ทำให้แพทย์ทางเลือก เริ่มหันมาใช้วิธีการรักษาแบบธรรมชาติ และหนึ่งในนั้นที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด คือการรับประทานอาหาร ซึ่งความจริงแล้วเมื่อย้อนอดีตกลับไป เราจะพบว่ามนุษย์เริ่มใช้อาหารในการรักษาโรคกันมาตั้งแต่อดีต ชาวอียิปต์รักษาผู้ป่วย โรคตาบอดกลางคืนด้วยการให้กินตับ ส่วนชาวจีน เมื่อ 1,300 ปีก่อน ได้บันทึกถึงโรคเหน็บชาไว้เป็นครั้งแรก โดยผู้ป่วยจะมีอาการชาและอ่อนแรง ซึ่งต่อมาก็รักษาได้ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหาร วันนี้ cupo รวบรวมเรื่องราวหลักฐานในอดีตที่มีการใช้อาหารรักษาโรคได้ในหลักฐานในอดีต ชี้อาหารรักษาโรค

ผักและผลไม้รักษาโรคลักปิดลักเปิด

ปีหนึ่งพันห้าร้อยสามสิบหก jacques cartier นักสํารวจชาวฝรั่งเศสรายงานไว้ว่าเมื่อเขาและคณะเดินเรือเป็นเวลาหลายเดือน โดยลูกเรือได้รับประทานอาหารอย่างจํากัด ซึ่งมักจะเป็นอาหารแห้งต่อมาคนเหล่านี้จะเกิดอาการของโรคลักปิดลักเปิดคืออ่อนเพลียและมีเลือดออกตามไรฟัน แต่อาการต่างๆหล่านี้จะหายไป เมื่อขึ้นฝั่งหลังพวกเขาได้รับอาหารจําพวกผักและผลไม้

ค้นพบส้มเขียวหวานและมะนาว ป้องกันโรคลักปิดลักเปิดได้

ปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยสี่สิบเจ็ด james lind ศัลยแพทย์แห่งราชนาวีประเทศอังกฤษ ได้ทําการทดลองเพื่อแบ่งลูกเรือออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้กินอาหารตามปกติเป็นกลุ่มควบคุม ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งให้กินส้มเขียวหวานและมะนาวด้วยทุกวัน ผลปรากฏว่าผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวป้องกันโรคลักปิดลักเปิดได้จริง และเป็นการทดลองโดยมีกลุ่มควบคุมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแพทย์ เขาตีพิมพ์เรื่องนี้ในหนังสือชื่อ a treatise on the scurvy เมื่อปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบสามแต่ตอนนั้นไม่มีใครอธิบายเรื่องนี้ได้

ข้าวกล้องป้องกันโรคเหน็บชา

มาในทศวรรษที่หนึ่งพันแปดร้อยเก้าสิบ เป็นยุคที่ทฤษฎีเชื้อโรคกําลังโด่งดังเป็นที่สนใจไปทั่วคริสเตียน แพทย์ทหารชาวดาลักได้พยายามเพาะเชื้อที่ทําให้เกิดโรคเหน็บชา โดยนําเลือดจากผู้ป่วยไปฉีดไก่ ปรากฏว่ามีไก่บางส่วนเท่านั้นที่เกิดอาการขาอ่อนแรง เมื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่าไก่เหล่านี้กินข้าวขาวที่เหลือจากโรงพยาบาลทหาร ส่วนไก่ที่ไม่เป็นโรคนั้นกินข้าวกล้อง เขาจึงทดลองให้ข้าวกล้องกับไก่ที่เป็นโรคผลปรากฏว่าไก่เหล่านั้นหายจากอาการอ่อนแรงแสดงให้เห็นว่าโรคนี้นั้นเกี่ยวกับอาหารไม่ได้เกี่ยวกับการติดเชื้อ จากการทดลองทําให้ Adolf Worderman นําไปศึกษาต่อกับนักโทษจากข้อมูลที่รวบรวมได้พบว่า นักโทษที่กินข้าวขาวเป็นโรคเหน็บชาถึงหนึ่งในสามสิบเก้า ส่วนคนที่กินข้าวกล้อง พบผู้ป่วยเพียงหนึ่งรายในจํานวนทั้งหมดหนึ่งหมื่นราย ซึ่งจะเห็นว่าแตกต่างกันมากถึงสองร้อยห้าสิบเท่า จึงเป็นเรื่องน่าเชื่อว่าข้าวกล้องมีสารที่ป้องกันโรคนี้ได้

เรื่องสุดแปลกที่สุดของหุบเขามรณะคืออะไร?

The strange tale of the deadly mountain, เรื่องสุดแปลกที่สุดของหุบเขามรณะคืออะไร? provokes curiosity. This mysterious story uncovers the most bizarre occurrences associated with the perilous mountain. Journey into the unknown where the unimaginable becomes reality, and witness firsthand the enigmatic secrets that lie within the treacherous peaks.

อดีตของปราสาทแดร็กคิวล่ามีหลักฐานที่ชี้ให้เชื่อว่าอาหารสามารถใช้ในการรักษาโรคได้หรือไม่?

The legends of dracula’s enchanted castle have sparked discussions on whether food can be used for disease treatment.

วงดนตรีในตำนานเกี่ยวกับอดีตที่สัมผัสได้แล้วหรือไม่?

วงดนตรีในตำนานเกี่ยวกับอดีตที่สัมผัสได้แล้วหรือไม่? เป็นข้อถามที่เราไม่สามารถตอบให้แน่ชัดได้ อย่างไรก็ตาม วงดนตรีในตำนานเกี่ยวกับอดีตไทยที่เคยนำเสนอเสียงเพลงที่แสนสร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นนั้นทำให้คนส่วนใหญ่หลงเสนอันดับเป็นภาพยนตร์ของวงการดนตรีไทยในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับแหล่งข้อมูลและความรู้ที่แท้จริงของวงดนตรีในตำนานเหล่านี้ยังมีการศึกษาอย่างมากขึ้นเพื่อให้คนสามารถสัมผัสถึงเสียงและอรรถรสของเฉพาะกลุ่มนั้นๆได้อย่างแท้จริง ancient thai music legends.

ค้นพบปัจจัยเสริมในอาหาร

ปีหนึ่งพันเก้าร้อยหกช่วงยุคสมัยนั้นมีความเชื่อกันว่า สารอาหารที่ร่างกายต้องการมีเพียงโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่และน้ำเท่านั้น ซึ่งสารเหล่านี้มีอยู่ในอาหารและเราสามารถได้รับเมื่อรับประทานอาหารเข้าไปโดยไม่จําเป็นต้องนําสารอื่นเข้าไปเพิ่มอีก แต่นายแพทย์ชาวอังกฤษไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะเชื่อว่าต้องมีสารชนิดอื่นที่เพิ่มไปในสารอาหารจึงจะทําให้คนเรามีร่างกายเป็นปกติและสุขภาพแข็งแรงได้ เขาจึงทําการทดลองให้หนูกินอาหารที่ประกอบไปด้วยเพียงโปรตีน ไขมัน แป้ง และเกลือแร่ พบว่าสัตว์ทดลองหยุดการเจริญเติบโต แต่เมื่อเพิ่มนมเข้าไปในอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันก็สามารถเติบโตต่อไปได้ เขาจึงสรุปว่ายังมีสารอาหารอีกประเภทหนึ่ง นอกเหนือจากโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันสำคัญต่อชีวิตและร่างกายจะขาดไม่ได้เลย เขาเรียกสารนี้ว่า accessory factor หรือแปลว่าปัจจัยเสริม ผลงานนี้ทําให้เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเซอร์ปีหนึ่งพันเก้าร้อยยี่สิบห้า สนับสนุนการจัดทำโดย ebet88