Friday, 29 March 2024

การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์

28 Dec 2022
183
การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ ทราบหรือไม่ เรื่องราวของพ่อมดและแม่มดนั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในนวนิยาย นิทานก่อนนอนหรือในภาพยนตร์เท่านั้น แต่เรื่องราวของพ่อมดแม่มดนั้นเป็นตำนานที่อยู่คู่กับโลกของเรามาตั้งแต่สมัยก่อน ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เหมือนเรื่องราวของพ่อมดแม่มดในนวนิยายเสียเท่าไร และในวันนี้ cupo ก็จะพาทุกคนไปรู้จักกับการล่าแม่มดในยุคกลางและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์กัน

ความเชื่อของคนยุคกลางเกี่ยวกับแม่มด

การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ คนยุคกลางในสมัยก่อนเชื่อกันว่าเวทมนต์นั้นอยู่รอบๆตัวและมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจําวันของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเพาะปลูก การรักษาโรคต่างๆและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ในสมัยก่อนนั้น ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทําให้คนยุคกลางเชื่อว่าท่ามกลางคนธรรมดานั้นจะต้องมีผู้ใช้เวทมนต์ซ่อนตัวอยู่และคอยบันดาลให้เกิดสิ่งไม่ดีต่างๆที่ในสมัยนั้นยังไม่สามารถระบุได้ อย่างเช่นโรคระบาดที่ไม่มีทางรักษา พืชพันธุ์ในหมู่บ้านไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควรและคนในยุคนั้นก็เชื่อว่าผู้ใช้เวทมนต์ส่วนมากจะเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชายอีกทั้งในสมัยก่อนคนยุคกลางนั้นยังเชื่อในศาสนามาก โดยพวกเขาเชื่อกันว่าพระเจ้านั้นมีศัตรูคือซาตานและพวกแม่มดก็คือคนที่ไปทําสัญญากับซาตานเพื่อให้ได้มาซึ่งเวทมนต์ของพวกเขาและจากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาเลยทําให้คนยุคกลางนั้นเกลียดและกลัวคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อมดหรือแม่มดเอามากมาก จนทําให้เกิดเป็นการล่าแม่มดขึ้นนั่นเอง

การล่าแม่มดในยุคกลาง

การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ ในช่วงยุคกลางการล่าแม่มดเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศแถบยุโรป โดยการล่าแม่มดครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นั้นเกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่สิบห้าในประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนี โดยภายหลังการล่าแม่มดก็ได้ค่อยๆแพร่หลายเข้าไปในประเทศอังกฤษและสก๊อตแลนด์ในช่วงศตวรรษที่สิบหกครับ ทําให้เกิดเป็นกฎหมายต่อต้านการเป็นพ่อมดแม่มดเกิดขึ้นในหลายประเทศในทวีปยุโรป โดยการล่าแม่มดนั้นจะเกิดขึ้นราวกับเป็นชีวิตประจําวันชาวบ้านในหมู่บ้านแถบยุโรปเลย เช่น ถ้าหากว่ามีโรคระบาดเกิดขึ้นในหมู่บ้านเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นชาวบ้านก็จะคิดว่าหมู่บ้านตนนั้นโดนพ่อมดหรือแม่มดสาปหลังจากนั้นพวกเขาก็จะพยายามหาตัวผู้ต้องสงสัยจากชาวบ้านด้วยกันเองและเมื่อชาวบ้านได้ผู้ต้องสงสัยแล้ว พวกเขาก็จะไปรวมตัวกันที่บ้านของคนๆนั้นและทําการพิสูจน์ว่าคนที่ตนกล่าวหานั้นเป็นพ่อมดแม่มดจริงหรือไม่และในบางกรณีก็จะมีการตัดสินโทษของคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดหรือแม่มดขึ้นในศาลและเป็นการตัดสินโทษที่ถูกต้องตามกฎหมาย

การระบุตัวแม่มดตามความเชื่อของคนในยุคกลาง

การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ โดยส่วนมากการระบุตัวผู้ใช้เวทมนต์นั้นมักจะเริ่มจากคนที่แตกต่างไปจากคนส่วนมากในหมู่บ้านเป็นต้นว่าคนนั้นอาจจะเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม ไม่ค่อยออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นหน้ากันมากนัก โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นในหมู่บ้านชาวบ้านมักจะเล็งไปที่ชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงมากกว่าชาวบ้านที่เป็นผู้ชายเพราะว่าตามความเชื่อของคนในยุคกลางที่เชื่อกันว่าผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่อ่อนแอและสามารถถูกซาตาชักจูงให้ทําสัญญาได้ง่ายเลยทําให้การล่าแม่มดนั้นเกิดขึ้นกับชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะหญิงสาวที่แตกต่างไปจากหญิงสาวคนอื่นในหมู่บ้าน เช่น แม่หม้าย หญิงชรา หญิงสาวที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ หรือหญิงสาวที่สวยเกินมนุษย์มนาหรือหญิงสาวที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ตามมาตรฐานความงามของหญิงสาวในสมัยก่อน เช่นมีไฝ จุดด่างดําหรือปานต่างๆอยู่บนตัว โดยจุดบกพร่องเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ชาวบ้านสามารถระบุตัวหญิงสาวที่เป็นแม่มดได้นั่นเองทําให้เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในหมู่บ้านหญิงสาวที่มีลักษณะตามที่กล่าวมามักจะถูกเพ่งเล็งว่าเป็นแม่มดก่อนใครและในบางกรณีก็มีที่ชาวบ้านผู้ชายถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดเช่นกัน เพียงแต่กรณีเหล่านั้นเกิดขึ้นน้อยกว่าการล่าตัวหญิงสาว

Who are the Wealthiest Dynasties in the World in 2022?

Who are the wealthiest dynasties in the world in 2022? A topic that intrigues many. The year 2022 brings forth a curious inquiry into the fortunes held by these elite families. As we delve into the world of riches, the spotlight naturally falls upon the richest dynasties 2022. These wealthy clans, through their vast empires and investments, continue to amass unimaginable wealth, captivating the imagination of society at large.

การตัดสินโทษของคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดในยุคกลาง

การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ หลังจากที่ชาวบ้านจับตัวพ่อมดหรือแม่มดมาได้แล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการตัดสินโทษโดยกระบวนการตัดสินโทษนั้นจะเริ่มสอบสวนผู้ที่ถูกกล่าวหาก่อน ซึ่งการสอบสวนในยุคกลางนั้นก็คือการทดสอบว่าผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นพ่อมดแม่มดจริงตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ โดยการเอาผู้ถูกกล่าวหาไปลอยน้ำ โดยคนอายุกลางนั้นเชื่อว่าคนที่เป็นพ่อมดแม่มดจะต้องลอยน้ำได้ทําให้หากผู้ถูกกล่าวหาคนไหน สามารถลอยตัวขึ้นมาได้ในทันทีหลังจากที่ถูกชาวบ้านจับโยนลงน้ำก็จะถือว่าผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นพ่อมดหรือแม่มดจริงตามที่ถูกกล่าวหาส่วนใครที่จมลงไปหลังจากที่ถูกโยนลงน้ำก็จะถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งหลังจากที่ถูกโยนลงน้ำและรอดมาได้ผู้ถูกกล่าวหาก็จะต้องโดนชาวบ้านหรือศาลสอบสวนต่อนะว่าตนนั้นใช้เวทมนต์อะไรได้ประกอบพิธีกรรมอะไรหรือมีการทําสัญญาอะไรกับซาตานหรือเปล่า โดยความเชื่อของคนในยุคนั้นเชื่อกันว่าหากพ่อมดหรือแม่มดคนไหนได้ทําสัญญากับซาตานในระหว่างการทําสัญญานั้นก็จะต้องมีการแตะเนื้อต้องตัวกันระหว่างผู้ทําสัญญาและซาตานเกิดขึ้นและจะต้องมีร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้บนร่างกายอย่างแน่นอน ทําให้ในขั้นตอนนี้ผู้ถูกกล่าวหามักจะถูกจับถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เพื่อหารอยบนตัวหลังจากที่ผ่านขั้นตอนการสอบสวนมาแล้ว การล่าแม่มดและคดีการไต่สวนแม่มดคนสุดท้ายแห่งสก็อตแลนด์ หากผู้ถูกกล่าวหาคนไหนตัดสินว่าตนนั้นตรงตามลักษณะและเป็นแม่มดหรือพ่อมดจากชาวบ้านหรือศาลแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการทรมานเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาสารภาพความจริง ซึ่งการทรมานนั้นก็จะมีหลากหลายรูปแบบเช่นการตอกเล็บ บีบขมับ หรือเอาเหล็กร้อนจิ้มตามตัวจนในปีหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบหก ก็ได้มีการจัดทําหนังสือคู่มือการล่าแม่มดที่ชื่อ The Hummer Of Witches ขึ้นเพื่อการล่าแม่มดโดยเฉพาะและทําให้การล่าแม่มดนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกจนหนังสือเล่มนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็นหนังสือที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เลยทีเดียว แต่เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดก็คือไม่ว่าขั้นตอนการสอบสวนและทรมานจะมีผลอย่างไรหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาจะพยายามยืนยันว่าตนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ขนาดไหนปลายทางของการตัดสินโทษนี้ ก็คือความตายเพียงอย่างเดียว ซึ่งการประหารผู้ที่เป็นพ่อมดหรือแม่มดก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ อย่างในประเทศอังกฤษและสก๊อตแลนด์ก็จะมักนําคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดมาแขวนคอประจานบ้างก็ถูกตัดคอด้วยกิโยติน แต่วิธีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือการเผาทั้งเป็น ส่วนโทษสถานเบาที่สุดก็คือการถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ซึ่งก็เป็นโทษที่เกิดขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการเผาผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งเป็นและจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ประเทศแถบยุโรปที่มีการคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ด้วยการกล่าวหาว่า บุคคลนั้นเป็นแม่มดนั้นได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ด้วยข้อหานี้ไป ไม่น้อยกว่าสองแสนคนเลยทีเดียวในประเทศเยอรมัน สนับสนุนการจัดทำโดย ufa4k