คุณคงรู้จักทองคำ แร่โลหะหายาก ที่มนุษย์ต่างก็แสวงหาและให้คุณค่ามาตั้งแต่สมัยอารยธรรมโบราณ
และในวันนี้ cupo เราจะพาคุณมาพบกับเรื่องจริง ทองคำ (GOLD) ที่คุณอาจสงสัย
คุณสมบัติของทองคำ (GOLD) 4 ประการ
ทองคําคือแร่โลหะตามธรรมชาติที่มีความพิเศษมากๆเป็นสิ่งที่มนุษย์ให้ค่ามาแล้วหลายพันปี โดยสิ่งที่ทําให้มันมีค่ามากกว่าแร่อื่น หลักๆแล้วก็มีอยู่สี่ข้อด้วยกัน
ข้อที่หนึ่งคือความสวยงามสีสันและความแวววาวเป็นที่หลงไหลของผู้คนทุกยุคทุกสมัยทุกอารยธรรมบนโลกใบนี้ อีกทั้งยังกล่าวอีกว่าสีของทองคํานั้นเป็นสีที่ไม่มีอะไรมาเสมอเหมือน ไม่มีค่าใดที่จะมีสีแบบนี้ได้
ข้อที่สองคือความหายาก เนื่องจากไม่ได้มีได้ทั่วไปการจะได้มาซึ่งทองคําจะต้องผ่านขั้นตอนการทําเหมืองและขั้นตอนอีกมากมายหลายอย่างที่ต้องใช้ทั้งแรงและเวลาค่อนข้างมาก
ข้อที่สามเป็นในเรื่องของความคงทนเนื่องจากทองคําจะไม่ขึ้นสนิม เนื้อทองคํามีความเหนียวและนิ่ม จึงสามารถรีดเป็นแผ่นบางๆได้ ซึ่งเหมาะสมอย่างมากแก่การนํามาทําเป็นเครื่องประดับ
ข้อที่สี่คือความสามารถในการนํากลับมาใช้ใหม่ได้ดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติที่สําคัญมากๆเราไม่ว่าจะนําทองคําไปใช้งานอย่างไรหรือคงอยู่ในสภาพไหน แต่หากนํามาผ่านขั้นตอนการคัดแยกและการหลอมที่ถูกต้องก็จะสามารถนําทองคํากลับมาใช้ใหม่ได้ในแบบไม่รู้จบ จนมีคํากล่าวที่ว่าแหวนหรือสร้อยคอทองคําของคุณในวันนี้มันอาจเคยเป็นทองคําในสมัยกรีกโบราณ อียิปต์โบราณและอารยธรรมโบราณอีกมากมายหลายแห่งก็เป็นได้
ทองเค (GOLD) คืออะไร?
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคําว่าทองเค แต่ก็อาจจะไม่แน่ใจว่าทองเคนั้นคืออะไรมันใช่ทองคําแท้แท้หรือไม่ ซึ่งคําตอบนั้นก็คือทองคําแท้ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นร้อยเปอร์เซ็นต์และในส่วนที่ไม่เต็มร้อยที่เหลือก็คือการนําโลหะธาตุอื่นมาผสม โดยตัวอักษรเคยย่อมาจากคําว่ากระดาษซึ่งเป็นหน่วยช่างของทองคําและโดยมาตรแล้ว ทองเค สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายระดับ ซึ่งในแต่ละประเทศก็จะมีความนิยมไม่เหมือนกันอย่างเช่นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็จะนิยมทองคํายี่สิบสี่เคหรือทองคําเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ ส่วนประเทศไทยนั้นทองรูปพรรณจะเป็นแบบยี่สิบสามจุดหนึ่งหกเคหรือเก้าสิบหกจุดห้าเปอร์เซ็นต์
ทองคำ (GOLD) บางๆ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าทองคํานั้นมีทั้งความนิ่มและความเหนียวมากๆ จึงทําให้ทองคําสามารถตีเป็นแผ่นบางบางได้บางมากกว่าโลหะชนิดอื่นอยู่หลายเท่าตัว ยกตัวอย่างเช่นทองคําเปลวที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าส่วนใหญ่แล้วทํามาจากทองคําเก้าสิบหกจุดห้าเปอร์เซ็นต์กว่าจะถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากเป็นแผ่นทองคําที่บางมากจริงๆ เราก็อาจจะเห็นเป็นสีเขียวอมน้ำเงินได้ เนื่องจากทองคําสามารถสะท้อนแสงสีแดงและแสงสีเขียวออกไปได้ดีมากหรือถ้าเป็นแผ่นทองที่บางมากกว่านั้นกว่าจะดูเป็นแผ่นโปร่งใสไปเลย ส่วนสถิติแผ่นทองคําที่บางที่สุดในโลกเกิดขึ้นในห้องทดลองในปีสองพันสิบเก้า โดยมีความบางอยู่ที่ศูนย์จุดสี่เจ็ดนาโนเมตรเท่านั้น ซึ่งบางกว่าเล็บมือของมนุษย์ถึงหนึ่งล้านเท่า
ที่มาของชื่อและสัญลักษณ์ ทองคำ (GOLD และ Au)
ทองคําคือได้ลําดับที่เจ็ดสิบเก้าในตารางธาตุ มีสัญลักษณ์คือ Au ที่ได้มาจากภาษาลาตินคําว่า Aurum ที่มีความหมายว่า แสงสว่างยามรุ่งอรุณ ส่วนคําว่า GOLD ที่เราคุ้นเคยกันดีก็มาจากภาษา Germanic ที่หมายถึงสีเขียว/เหลือง ซึ่งอาจจะได้มาจากคุณสมบัติในการสะท้อนแสงสีแดงและสีเขียวออกไปได้ดีมากๆเหมือนอย่างที่เราได้กล่าวไปในข้อที่แล้ว
ผู้ครอบครองทองคำ (GOLD) มากที่สุด
แต่หากถามว่าประเทศไหนครอบครองทองคํามากที่สุดในโลก คําตอบนั้นก็คือ สหรัฐอเมริกา โดยเว็บไซต์ Investopedia.comได้เปิดเผยข้อมูลเอาไว้ในเดือนกรกฎาคม ปีสองพันยี่สิบสองว่า แม้ว่าทางสหรัฐอเมริกาจะไม่ได้ผูกค่าเงินของตัวเองไว้กับทองคําเหมือนอย่างประเทศอื่น แต่ทว่าสหรัฐก็มีทองคําไว้ในครอบครองมากถึงแปดพันหนึ่งร้อยสามสิบสามจุดห้าตัน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในโลกและในส่วนของงานครอบครองทองคําเป็นรายบุคคลที่เป็นแบบส่วนตัวนั้นมาเป็นข้อมูลที่ไม่มีการเจาะลึกอะไรมากนัก การที่จะระบุว่าบุคคลใดครอบครองทองคํามากที่สุดในโลกถือว่าเป็นสิ่งที่ทําได้ยาก แต่ทว่าในภาพรวมที่เคยมีการศึกไว้ในปีสองพันสิบเก้าระบุว่าผู้ที่ครอบครองทองคําส่วนบุคคลมากที่สุดในโลกก็คือประชาชนชาวอินเดียทั้งหมดรวมกัน ซึ่งประเมินว่าน่าจะมีอยู่ประมาณสองหมื่นสี่พันตัน โดยทองคําเหล่านี้ชาวอินเดียได้ยกเอามาทําเป็นเครื่องประดับนั่นเอง
เมื่อค้นพบภาพโมเสคในซีเรีย สามารถหารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องจริงทองคำในซีเรียได้หรือไม่?
When discovering photo manipulation in syria, it is possible to find details about real gold stories in Syria.
ทองคำ (GOLD) กับทองคำขาว (White Gold/Platinam)
นี้อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยมานานว่าทองคําขาวจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่ มันใช้ทองคําจริงๆหรือเปล่า? ซึ่งคําตอบนั้นก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าคําว่าทองขาวกับทองคําขาวนั้นเป็นคนละอย่างกัน เริ่มต้นกันที่ทองขาว เกิดจากการนําทองคําไปผสมกับแร่โลหะอื่นอย่างเช่นแร่เงินเพื่อให้ได้เนื้อทองที่แข็งแรงมากขึ้นและเหมาะสมกับชิ้นงานมากขึ้น ซึ่งสัดส่วนอาจจะเป็นทองคําเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์กับแร่อื่นอีกยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์หรือทองคําเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ผสมกับแร่ออื่นอีกสิบเปอร์เซ็นต์เป็นต้น จากนั้นเมื่อผสมออกมาเนื้อทองคําก็จะมีสีอ่อนลง จึงเรียกกันว่าทองขาว ส่วนทองคําขาวนั้นแท้จริงแล้วไม่มีส่วนผสมของทองคําแต่อย่างใด แต่มันคือแร่แพลทินัม และด้วยความที่แพลตตินัมมีสีอ่อนสวยงามมีความแข็งแรงทนทานดูแลง่าย ใช้ไปนานนานแล้วสีไม่ค่อยหมอง ถึงนิยมเอาแพลทินัมมาทำเครื่องประดับ โดยในส่วนของแพลตตินัมนี้ก็มีการตีเปอร์เซ็นต์ด้วยเช่นเดียวกัน
สนับสนุนการจัดทำโดย ufacash888