Thursday, 18 April 2024

4 พิษร้ายที่ช่วยพลิกชีวิต

13 Jan 2023
190
4 พิษร้ายที่ช่วยพลิกชีวิต ในช่วงหลายล้านปีของวิวัฒนาการสัตว์ต่างๆ ได้ดัดแปลงอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองจากผู้ล่าหรือใช้เพื่อการจับเหยื่อ กลยุทธ์หนึ่งที่ได้ผลคือการผลิตสารพิษในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆสัตว์หลายชนิด สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์เราผ่านทางผิวหนังโดยการสัมผัส กัด ต่อย หรือพ่นพิษได้ พิษของสัตว์บางชนิดนั้นก็รุนแรง จนสามารถทำให้มนุษย์หยุดหายใจได้ภายในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่ถึงแม้นพิษของสัตว์นั้นจะมีอันตรายมากเพียงใด แต่ส่วนประกอบของสารพิษเหล่านี้ เช่น เกลืออนินทรีย์และโมเลกุลอินทรีย์ขนาดเล็ก ตลอดจนเปปไทด์และเอนไซม์ ต่างมีฤทธิ์ซึ่งเกิดประโยชน์ในทางเภสัชวิทยาอย่างหลากหลาย ทำให้มนุษย์เราคิดค้น พัฒนานำพิษของสัตว์บางชนิดมาใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งหากจะกล่าวไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะบรรพบุรุษของเรานั้นก็เคยใช้พิษงู พิษแมงมุม ในลักษณะเช่นเดียวกันกับที่ใช้พืชสมุนไพรในการรักษาหรือเพื่อบรรเทา วันนี้ cupo จะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับพิษของสัตว์ต่าง ๆ ที่ถูกนำมาผลิตเป็นยา แถมพิษในสัตว์บางชนิดนั้นก็มีมูลค่านับหลายร้อยล้านบาทเลยทีเดียว

ตะขาบ

4 พิษร้ายที่ช่วยพลิกชีวิต พิษของตะขาบมีประวัติศาสตร์ยาวนานต่อชีวิตมนุษย์ ซึ่งถูกใช้เป็นยาแก้ปวดมานานหลายศตวรรษโดยชาวจีนที่พวกเขาใช้ตะขาบในด้านเวชศาสตร์มานานหลายร้อยปี ก่อนนักวิจัยวิทยาการทางการแพทย์ในโลกตะวันตกที่เพิ่งจะหันมาสนใจทําการศึกษาและพบว่าพิษของตะขาบนั้นเป็นคลังสารเคมีที่มีความซับซ้อนสูงอุดมไปด้วยเปปไทด์ที่มีไดซัลไฟต์ ออกฤทธิ์ยับยั้งการนําเกลือโซเดียมไม่ให้ผ่านเข้าออกในผนังเซลล์ประสาทช่วยควบคุมความรู้สึกเจ็บปวดแบบเฉียบพลันซึ่งสามารถจะทํางานได้ดีกว่ามอร์ฟีน

ผึ้ง

4 พิษร้ายที่ช่วยพลิกชีวิต โดยปกติแล้วคนที่โดนผึ้งต่อยหากแพ้มักจะมีอาการปวดบวมมีผื่นแดงและสําหรับบางคนที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรงก็อาจจะเกิดอาการหายใจติดขัด คลื่นไส้และสามารถนําไปสู่การเสียชีวิตได้ แต่ในอดีตตั้งแต่ยุคสมัยอียิปต์โบราณได้มีการนําพิษของผึ้งมาทําเป็นยามานานแล้ว หรืออย่างบิดาแห่งการแพทย์ก็เคยใช้พิษผึ้ง เพื่อรักษาอาการปวดข้อและโรคข้ออักเสบ พิษของผึ้งหรือนอร์อีพิเนฟรินเป็นของเหลวที่มีฤทธิ์เป็นกรด ไม่มีสี มีรสขม มีกลิ่นหอมอ่อนของสารระเหย ในการต่อยหนึ่งครั้งของผึ้งนั้นจะปล่อยสารพิษประมาณศูนย์จุดหนึ่งมิลลิกรัม ซึ่งพิษผึ้งจะมีสารออกฤทธิ์ที่สําคัญหลายตัว ซึ่งมีคุณสมบัติทางการแพทย์สามารถนําไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่างๆการผสมพิษผึ้งเพื่อทําเครื่องสําอาง การใช้พิษผึ้งในการบําบัดรักษาที่เรียกว่า Apitherapy ส่วนทางการแพทย์และทางเภสัชศาสตร์นั้น พิษของผึ้งจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ การอักเสบของเซลล์ การแข็งตัวของเลือด รวมถึงยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่างๆได้ โดยคุณสมบัติเหล่านี้สามารถนําไปใช้ในการรักษาที่หลากหลาย เช่น การรักษาโรคไขข้อ เส้นเอ็น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้อเข่าเสื่อม ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ โรคผิวหนัง โรคทางระบบประสาทอย่างเช่นโรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ และโรคมะเร็งอีกหลายชนิด

ปลาปักเป้า

4 พิษร้ายที่ช่วยพลิกชีวิต พิษของปลาปักเป้าที่เรียกว่า Tetrodotoxin เป็นโมเลกุลมหัศจรรย์ที่ไม่ว่านักเคมีคนไหนก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ เป็นพิษร้ายแรงจากรังไข่ของปลาปักเป้า ซึ่งรุนแรงกว่าไซยาไนท์ถึงหนึ่งพันสองร้อยเท่าและทนต่อความร้อนสูงกว่าสองร้อยองศาเซลเซียส หากได้รับพิษเพียงแค่หนึ่งมิลลิกรัมภายในยี่สิบนาทีจะเกิดอาการชา ปวดหัวเป็นไข้ อาเจียนและเริ่มเป็นอัมพาตจนกระทั่งหายใจไม่ออกและเสียชีวิตในที่สุด Tetrodotoxin ถูกศึกษาในแวดวงประสาทวิทยานํามาใช้ในการควบคุมเซลล์ประสาทที่รับรู้ความรู้สึกเจ็บได้อย่างดีเลิศ บริษัทยาจึงพัฒนาสกัดสารพิษนํามาใช้รักษามะเร็งและช่วยลดความเจ็บปวดในผู้ป่วยที่กําลังรักษาด้วยวิธีคีโมบําบัด นอกจากนี้ที่โรงพยาบาลเด็ก Boston มีการนํามาจับคู่กับโพลิเมอร์ใช้เป็นยาสําหรับบรรเทาอาการปวดที่ทําให้ยานั้นสามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อเส้นประสาทได้มากขึ้นจนสามารถใช้ยาในการรักษาบรรเทาอาการปวดในปริมาณที่น้อยแต่ว่ามีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดได้นานมากขึ้น

What is the Legend of X-Caliber?

The legendary excalibur sword holds significant importance in the Arthurian legend. It was the weapon embedded in a stone, only to be pulled out by the true king. As the wielder of the sword, King Arthur became a powerful leader and protector of the realm, earning him great respect and admiration. The legend of the Excalibur sword continues to captivate people’s imagination and remains an iconic symbol of courage and destiny.

หอยเต้าปูน

4 พิษร้ายที่ช่วยพลิกชีวิต หอยเต้าปูนเป็นหอยทะเลที่สร้างพิษขึ้นมาเพื่อใช้ในการป้องกันตนเองและล่าเหยื่อ ซึ่งความรุนแรงของพิษนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดและลักษณะความเป็นอยู่ ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์เป็นหอยที่ใช้เข็มพิษในการล่าเหยื่อเป็นอาหาร โดยในเข็มพิษนั้นจะมีพิษโคโนท็อกซิน ซึ่งออกฤทธิ์ต่อระบบประสาททําให้เหยื่อเป็นอัมพาตและหมดสติอย่างรวดเร็ว พิษของหอยเต้าปูนขนาดใหญ่บางชนิดรุนแรงพอที่จะทําให้มนุษย์ตายได้ทันที ในปัจจุบันพิษของหอยเต้าปูน ยังไม่มียารักษา ในการวิจัยพิษของหอยเต้าปูนพบว่า พิษของหอยนั้นมีคุณสมบัติที่ช่วยระงับความเจ็บปวดประสาทส่วนกลางมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ามอร์ฟีนถึงหนึ่งพันเท่า หลักการทํางานของมันได้นําไปสู่การคิดค้นยาแก้ปวดชนิดใหม่ทดแทนมอร์ฟีนและยาแก้ปวดชนิดทุนรุนแรงอื่นๆซึ่งยาจากพิษหอยเต้าปูนนี้สามารถระงับฤทธิ์ความเจ็บปวดอยู่ได้เป็นเวลานานสูงสุดถึงสามวัน นอกจากนี้การออกฤทธิ์ระงับปวดของยาจากพิษหอยเต้าปูนนั้น มีความแตกต่างจากยาแก้ปวดทั่วไปในปัจจุบัน โดยจะยับยั้งไม่ให้อาการปวดนั้นก่อตัวขึ้นตั้งแต่แรก ซึ่งตรงกันข้ามกับยาแก้ปวดส่วนใหญ่ที่ทําให้ระบบประสาทไม่รับรู้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไปแล้ว ปัจจุบันได้รับการอนุญาตจากเอฟดีเอสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้ใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงจากความเสียของระบบประสาทหรือโรคมะเร็งโดยการฉีดเข้าที่ไขสันหลังของผู้ป่วยเท่านั้น สนับสนุนการจัดทำโดย pgslot888th