หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับดอกไม้ในญี่ปุ่น เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ประจําชาติของประเทศญี่ปุ่นด้วย วันนี้cupoจะมาแนะนําดอกไม้ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นรวมถึงพิกัดที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเทศกาลดอกไม้ในห้าดอกไม้ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นและพิกัด
1.ซากุระ
หากพูดถึงดอกไม้ในญี่ปุ่นหลายคนจะต้องนึกถึงซากุระหรือเชอร์รี่บลอสซั่มเป็นอย่างแรก ซากุระในญี่ปุ่นนั้นมีมากมายหลายสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ โซเมอิ โยชิโนะ ซึ่งมีกลีบดอกสีขาวจนไปถึงสีชมพูอ่อนห้ากลีบ สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่ถูกปลูกมากที่สุดในญี่ปุ่น แต่จะบานแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น หลังจากนั้นกลีบดอกจะร่วงและต้นซากุระก็จะตายลง ซากุระจึงเป็นสัญลักษณ์แทนความไม่จีรังยั่งยืน ช่วงเวลาที่ซากุระบานแต่ละพื้นที่ในญี่ปุ่นก็จะแตกต่างกัน โดยในช่วงกลางเดือนมีนาคมซากุระที่อยู่ทางภูมิภาคคิวชูหรือภาคใต้จะบานก่อนจากนั้นก็จะบานไล่ขึ้นทางเหนือไปอย่างต่อเนื่องและซากุระที่อยู่ทางภูมิภาคฮอกไกโดหรือภาคเหนือจะบานเป็นแห่งสุดท้ายในช่วงปลายเดือนเมษายน ด้วยความที่ซากุระเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นมานานจึงมีบทกวีและงานศิลปะมากมายที่กล่าวถึงซากุระ นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ทําจากซากุระเช่น ซากุระโมจิ และซากุระยุ ซึ่งเป็นชาที่มีกลีบดอกซากุระรวมถึงฮานามิหรือเทศกาลชมดอกไม้ ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นจะรับประทานอาหารใต้ต้นไม้พร้อมกับชมดอกไม้ไปด้วย โดยมากมักจะเป็นซากุระและต้นซากุระที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดก็คือ มิฮารุ ทากิซากุระ ซึ่งเป็นต้นซากุระใหญ่ที่มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปีอยู่ที่เมือง Miharu จังหวัด Fukushima2.เบญจมาศหรือคิคุ
ดอกไม้ที่มีกลีบซ้อนกันหลายชั้นมีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีม่วง สีชมพู บานในเดือนพฤศจิกายนเข้ามาในญี่ปุ่น เมื่อยุค Nara โดยนําเข้าจากจีนในฐานะที่เป็นยารักษาโรคในยุคเฮอัน ที่มีความเชื่อว่า คิคุ เป็นดอกไม้ที่มีพลังอํานาจในการต่ออายุของผู้คนให้ยาวนานขึ้น ต่อมาในปีหนึ่งพันแปดร้อยหกสิบเก้า ซึ่งตรงกับยุคเมจิ คิคุ ได้กลายเป็นตราสัญลักษณ์ประจําราชวงศ์ญี่ปุ่นเรียกว่า คิคุมง โดยปรากฏเป็นรูปดอกคิคุสีเหลือง มีกลีบดอกสิบหกกลีบและกลีบซ้อนอีกสิบหกกลีบ ซึ่งใช้สําหรับเป็นตราประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิและบรมวงศ์ศานุวงศ์ ตราสัญลักษณ์นี้ยังปรากฏอยู่บนหนังสือเดินทางของชาวญี่ปุ่นและเหรียญห้าสิบเยนอีกด้วยความหมายของคิคุ คือการมีอายุที่ยืนยาวที่ญี่ปุ่นจึงมีประเพณีดั้งเดิมที่เรียกว่า คิคุโนะเซ็ตคึ คือการดื่มสาเก โรยด้วยกลีบดอกคิคุ เพื่อขอพรให้มีอายุยืนยาว ซึ่งจัดขึ้นในวันที่เก้ากันยายนของทุกปี ดอกคิคุสีขาว หมายถึงความเศร้าโศก ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมนําไปใช้ในงานศพ และยังมีตํานานเล่าว่าเกิดจากดอกไม้ที่หญิงสาวชื่อว่า คิคุโนะ ได้ทําขึ้นเพื่อขอพรให้สามีของเธอหายป่วยและมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทศกาลชมดอกคิคุที่จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ศาลเจ้าYouThima Tenjin ใกล้กับสวนอุเอนโนะ กรุงโตเกียว3.อุเมะ
อุเมะหรือบ๊วยเป็นดอกไม้ที่มีกลีบดอกกลม ซ้อนกันหลายชั้น มีตั้งแต่สีขาว สีเหลืองจนถึงสีชมพูมีรูปร่างคล้ายกับซากุระ จึงทําให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นดอกไม้ชนิดเดียวกัน แต่ดอกไม้ทั้งสองชนิดมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันหลายจุดรวมถึงช่วงเวลาที่บานด้วย อุเมะจะบานในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จนถึงมีนาคมในขณะที่ซากุระจะบานในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน เข้ามาในญี่ปุ่น เมื่อยุค Asika เมื่อประมาณหนึ่งพันห้าร้อยปีที่แล้ว โดยนําเข้าจากจีนในฐานะที่เป็นยารักษาโรค ต่อมาก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นเช่นปรากฏอยู่ในงานศิลปะ ทั้งภาพวาดและบทกวี ในภาษาดอกไม้ของญี่ปุ่น มีความหมายว่า ความสง่างาม ศักดิ์ศรี ความอดทน และในช่วงเทศกาลปีใหม่ชาวญี่ปุ่นก็นิยมมอบต้นอุเมะให้แก่ผู้อื่น โดยอยู่ในรูปแบบคือต้นไม้ใหญ่ที่นํามาย่อส่วน และตัดแต่งให้อยู่ในกระถาง เทศกาลอุเมะ ที่มีชื่อเสียงคือ เทศกาลชมดอกอุเมะที่เมืองมิโตะ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนมีนาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่อุเมะกําลังบานสะพรั่ง โดยจะจัดขึ้นสองที่คือที่สวนไคราคูเอ็นและโคโดคังที่เมืองมิโตะจังหวัด Ibaraki4.สึบากิ
สึบากิหรือคาลิเลียเป็นดอกไม้ที่มีสีแดง สีชมพู สีขาว สีเหลือง มีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น มีลักษณะที่คล้ายดอกกุหลาบจึงได้รับฉายาว่ากุหลาบญี่ปุ่นบานในช่วงเดือนมกราคมจนถึงมีนาคม สึบากิเป็นดอกไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไปในจีนและญี่ปุ่น ผู้คนในยุคโจมงเมื่อประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนได้นําเมล็ดจากดอกสึบากิมาสกัดเป็นน้ำมัน ยุคมุโลมาจิได้มีการนําสึบากิไปแต่งสวนและจัดดอกไม้ ในภาษาดอกไม้ของญี่ปุ่นสึบากินั้นมีความหมายว่า ความนอบน้อมความรอบคอบและความรักที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังมีการจัดเทศกาลชมสึบากิที่ lzu oshima tsubaki matsuri festival ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงปลายเดือนมีนาคมที่จัตุรัสคาเมลเลียและเกาะโอชิมา เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์กลางการปลูกและผลิตภัณฑ์ต่างๆจากที่นี้Is Path to Nowhere a Popular Game in Japan?
The gameplay analysis of path to nowhere reveals the intriguing aspects of this popular game in Japan. With its captivating storyline and immersive virtual world, Path to Nowhere has gained a significant following among Japanese gamers. The unique gameplay mechanics and stunning visuals make it an enjoyable experience for players seeking an adventurous gaming journey.