ส่วนผสมแปลกในเครื่องสำอางโบราณ

เรื่องความสวยความงามอยู่คู่กับหญิงสาวมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสิ่งที่ช่วยส่งเสริมความงดงามให้กับพวกเธอ คือ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณต่าง ๆ ถ้าลองเปรียบเทียบกัน ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีส่วนผสมที่ปลอดภัย ไม่อันตรายต่อสุขภาพ หรือเมื่อเห็นส่วนผสมแล้วจะช่วยให้รู้สึกอยากลองหยิบมาใช้ ตรงข้ามกับในอดีตที่ส่วนผสมบางตัวเป็นสารที่อันตรายหรือแปลกจนไม่กล้าจะหยิบมาใช้งาน วันนี้ cupo เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเครื่องสำอางสมัยก่อนเขาจะมีส่วนประกอบแบบใดบ้าง

ตะกั่ว

ตะกั่วเป็นส่วนผสมที่พบมากที่สุดในเครื่องสําอางสมัยโบราณ นับตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณจนถึงช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ยี่สิบ โดยมักจะเติมลงไปในเครื่องสําอางหลายชนิด เช่น ครีมทาหน้า รองพื้น บลัชออน อายไลเนอร์ โดยอียิปต์โบราณจะใช้สารตะกั่วเป็นส่วนประกอบหลักผสมกับขี้เถ้าและเขม่าทําเป็น Kohl สารที่ใช้ทําอายไลเนอร์เพื่อทาตกแต่งรอบดวงตา ซึ่งมีผลข้างเคียงทําให้เกิดปัญหาสุขภาพดวงตาได้หรือในสมัยโรมันโบราณจะมีเทรนด์ความงามหนึ่งที่มองว่าผู้หญิงที่มีผิวขาวซีดจะมีสถานะทางสังคมที่สูงกว่าคนอื่น แสดงว่าเธอมีฐานะร่ำรวยพอที่จะอยู่แต่ในบ้านได้ทั้งวันและสั่งให้คนรับใช้ทํางานต่างๆแทน ด้วยเหตุนี้จึงทําให้เกิดผลิตภัณฑ์รองพื้นไวเทรนนิ่งที่มีส่วนประกอบหลักเป็นตะกั่วขาวขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้ที่ใช้มีผิวขาวสว่าง เนื่องจากฤทธิ์ในการกัดกร่อนผิวนั่นเอง ซึ่งนอกจากการกัดกร่อนผิวแล้วยังทําให้เกิดผลข้างเคียงอื่นด้วยเช่น รอยแผลเป็นเกิดความบกพร่องทางจิต ภาวะมีบุตรยาก โรคอัมพาตจากสารตะกั่วและอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ยาเบื่อหนู

ในช่วงทศวรรษที่หนึ่งพันเก้าร้อยสามสิบมีผลิตภัณฑ์ครีมกําจัดขนยี่ห้อหนึ่งออกมาวางจําหน่าย โดยโฆษณาว่าเป็นวิธีการกําจัดขนที่ไม่พึงประสงค์บนร่างกายออกไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็เริ่มมีรายงานว่า ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้เกิดปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงขึ้นไม่ว่าจะเป็นตาบอด ฟันผุ เส้นประสาทเสียหายและปัญหาระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอันที่จริงผลข้างเคียงนี้เกิดจากสารตัวหนึ่งที่เป็นส่วนผสมในครีมกําจัดขนเรียกว่า Thallium acetate ที่เป็นส่วนผสมในยาเบื่อหนู มีฤทธิ์เป็นพิษทั้งต่อคนและสัตว์ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้จึงถูกนําออกจากชั้นวางในที่สุด

สารหนู

ส่วนผสมอันตรายที่ใส่ลงไปในเครื่องสําอาง นอกจากจะมีตะกั่ว thallium acetate ที่ใช้ในยาเบื่อหนูแล้ว ก็ยังมีสารหนูที่ถูกใส่ลงไปในครีมบํารุงผิวหน้าในยุควิคตอเรียและหลังสงครามกลางเมือง โดยมีวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับตะกั่วคือเพื่อให้มีผิวขาวซีด นอกจากครีมบํารุงผิวหน้าพวกเขาก็ยังใส่สารหนูลงไปในเวเฟอร์ชิ้นเล็กๆสําหรับรับประทานอีกด้วย โดยโฆษณาว่าเป็นเวเฟอร์เคลือบสารหนูอวดอ้างสรรพคุณในการขจัดสิวและริ้วรอยตําหนิต่างๆเพื่อให้ใบหน้ากระจ่างใส ซึ่งผู้ที่รับประทานเวเฟอร์นี้เข้าไปเป็นจํานวนมาก มักจะป่วยด้วยอาการอาเจียน ท้องเสีย ปวดท้องและเสียชีวิตในที่สุด

มีส่วนผสมแปลกในเครื่องสำอางโบราณที่เหมือนกันในทุกเครื่องหรือไม่?

มีส่วนผสมแปลกในเครื่องสำอางโบราณที่เหมือนกันในทุกเครื่องหรือไม่? สำรวจการใช้สมุนไพรและส่วนผสมแปลกๆ ในเครื่องสำอางโบราณพบว่ามี ancient cosmetic ingredients บางอย่างที่เหมือนกันในทุกเครื่อง เช่น ฮิบิสคัส, ผงน้ำตาล, หรือดิน.

กัมมันตรังสี

อันที่จริงเทรนความสวยความงามที่ต้องการให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งฉ่ำน้ำนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ซึ่งปัจจุบันสาวๆในปัจจุบันจะใช้ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันออร์แกนิกหรือน้ำมันมะพร้าว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ แต่ถ้าย้อนไปในช่วงทศวรรษที่หนึ่งพันเก้าร้อยยี่สิบถึงหนึ่งพันเก้าร้อยห้าสิบสาวๆต้องการผิวที่มีลักษณะเดียวกันนี้ พวกเธอจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเป็นเรเดียมธาตุกัมมันตรังสีที่เป็นธาตุประกอบระเบิดนิวเคลียร์ โดยเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง กระตุ้นการไหลเวียน ขจัดไขมัน ลดขนาดรูขุมขน ดูมีชีวิตชีวาและดูอ่อนเยาว์ แต่ความงามเช่นนี้ก็ต้องแลกมาด้วยมะเร็งที่ก่อตัวอยู่ใต้ผิวหนังนั่นเอง สนับสนุนการจัดทำโดย ufabet123